MAKRO ขายหุ้น 43.50 บาท แพงไปไหม โบรกฯ มองอย่างไร
Read Time:8 Minute, 0 Second

MAKRO ขายหุ้น 43.50 บาท แพงไปไหม โบรกฯ มองอย่างไร

0 0

 

MAKRO เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่หุ้นละ 43.50 บาท เพื่อระดมทุนราว 5.6 -6.2 หมื่นล้านบาท ใช้ขยายกิจการและชำระหนี้คืนสถาบันการเงินจากการเข้าซื้อโลตัส สำหรับราคาเสนอขายหุ้น PO แพงไปไหม ? มาดูมุมมองจากโบรก ฯ วิเคราะห์ ก่อนตัดสินใจจองซื้อซึ่งยังมีเวลาอีก 2 วัน

ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายที่ บมจ.สยามแม็คโคร ( MAKRO ) เปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิม MAKRO CPALL และ CPF ที่ได้รับสิทธิ และนักลงทุนรายย่อย จองซื้อขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ( PO)ของบริษัทได้ในราคา หุ้นละ 43.50 บาท โดยจะประกาศรายชื่อและผลการจัดสรรหุ้น ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ที่เว็บไซต์ www.settrade.com

 

สำหรับราคาหุ้นเพิ่มทุน MAKRO ที่เสนอขายที่หุ้นละ 43.50 บาท มีประเด็นที่ถามกันมาว่า แพงไปไหม ? “ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล” รวบรวม ข้อมูลจากไฟลลิ่งของ บมจ.สยามแม็คโคร ตลอดจนมุมมองของโบรกเกอร์เพื่อให้ผู้อ่านประกอบการตัดสินใจ ในช่วงการจองซื้อที่เหลืออีก 2 วัน ดังนี้

 

MAKRO เสนอขายหุ้น PO ไม่เกิน 1,300 ล้านหุ้น (ไม่นับรวมหุ้นส่วนเกิน) ประกอบด้วย

 

หุ้นสามัญเพิ่มทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้ที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 910 ล้านหุ้น
หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) บจก.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง ( CPH) และบจก.ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง ( CPM ) จำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 390 ล้านหุ้น
จัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Overallotment shares หรือ กรีนชู) จำนวนไม่เกิน 130 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายแก่ประชาชน

กำหนดราคา PO คำนวณ P/E ที่ 43.86 เท่า

 

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น PO ที่ 43.50 บาท พิจารณาจากราคาและจำนวนหุ้นที่ผ่านการเจรจาตกลงกับผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors ร่วมกับอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio หรือ P/E) และอัตราส่วน EV/EBITDA รวมถึงพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ศักยภาพในการเติบโต และกลยุทธ์และแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียง เป็นต้น

อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E ) ประมาณ 43.86 เท่า และอัตราส่วน Enterprise Value to EBITDA (EV/EBITDA) ประมาณ 17.99 เท่า ซึ่งอัตราส่วน P/E และอัตราส่วน EV/ EBITDA ของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัท ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( SET ) อยู่ที่เฉลี่ย 39.98 เท่า และ 17.92 เท่า ตามลำดับ อ้างอิงข้อมูลในช่วงระยะเวลา 6 เดือนย้อนหลัง ( สิ้นสุด 26 พ.ย. 64 )

 

อย่างไรก็ดี อัตราส่วน P/E และ อัตราส่วน EV/EBITDA ดังกล่าวคำนวณจากฐานะทางการเงินในอดีต โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงาน หรือความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งไม่ได้เป็นอัตราส่วนที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้โดยตรง เนื่องจากเป็นการคำนวณอัตราส่วนในช่วงเวลาที่ต่างกัน

ระดมทุน 6.2 หมื่นล้านบาท “ขยายธุรกิจ-ใช้หนี้”

มูลค่าเสนอขาย 1,300 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 56,550 ล้านบาท (กรณีไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) และไม่เกิน 62,205 ล้านบาท ( กรณีรวมหุ้นส่วนเกิน รวมแล้วทั้งสิ้น 1,430 ล้านหุ้น ) โดยเป้าหมายในการระดมทุน MAKRO มีแผนจะนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศในปี 2564 – 2566 เป็นเงิน 19,403 ล้านบาท และใช้ชำระเงินกู้ยืมสถาบันการเงินบางส่วนตามแผนในปี 2564 – 2566 เป็นจำนวนเงิน 19,403 ล้านบาท ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

 

 

ทั้งนี้ ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2564 สัญญาเงินกู้ยืมเงินระยะสั้นของ Lotus’s Ltd มีจำนวนเงินกู้ที่ค้างชำระเท่ากับจำนวน 9,439 ล้านบาท และ 566 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีอัตราดอกเบี้ยไม่คงที่ ตามที่ระบุในสัญญา โดยบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สำคัญตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเงินกู้ยืมระยะสั้นของ Lotus’s Ltd เช่น

 

(1) เมื่อการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (Public Offering) ของ Makro PCL เสร็จสมบูรณ์ Lotus’s Ltd จะต้องชำระเงินบางส่วนคืนก่อนถึงกำหนดชำระ
(2) Makro PCL และ Lotus’s Ltd ต้องรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ไม่เกิน 2.5 ต่อ 1 โดยคำนวณตามงบการเงินรวม

หุ้น MAKRO ที่ 43.50 บาท แพงไปไหม

 

มุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย มองว่า MAKRO กำหนดราคา PO ที่ 43.5 บาท/หุ้น คิดเป็น 39 เท่าของ EPS ปี 2565 และเท่ากับราคาเสนอซื้อจากธุรกรรมของโอนกิจการทั้งหมด (EBT) ของ Lotus
คาด MAKRO จะได้รับเงินราว 3.96 หมื่นล้านบาทจากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ ซึ่งจะทำให้ D/E สุทธิลดลงเหลือ 0.3 เท่า จาก 0.4 เท่า ในช่วงสิ้นไตรมาส 3/2564

 

บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ถือ” MAKRO ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 49.00 บาท และแนะนำให้ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นที่จัดสรรไว้

 

เราแนะนำให้ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ทำการจองซื้อ เนื่องจากราคาเสนอขายเท่ากับราคาเสนอขายของธุรกรรมโอนกิจการทั้งหมด (EBT) จาก Lotus และยังคงมี upside ที่ 13% ต่อราคาเป้าหมายของเรา อีกทั้งเรามีความเห็นด้านบวกต่อแนวโน้มทางธุรกิจของ MAKRO ในระยะปานกลาง ถึงแม้ว่าจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจะลดการเติบโตของ EPS ในปี 2565

 

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่ามีมุมมองเป็นกลางต่อราคา PO MAKRO ที่ 43.50 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาที่ใช้แลกซื้อหุ้นโลตัสส์ และมี upside ราว 15% จากราคาเป้าหมายของปี 2565 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ที่ 50 บาทต่อหุ้น ผสานกับมุมมองบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของกำไรในปี 2565-2566 ของ MAKRO ที่จะได้เห็นผลบวกจากการควบรวมโลตัสส์ และเงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งเพื่อลดภาระหนี้ ดังนั้นจึงแนะนำจองซื้อหุ้น PO ของหุ้น MAKRO ได้

 

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าการที่กลุ่ม CP ปรับลดจำนวนหุ้น PO ครั้งนี้ลงเหลือ 1,300-1,430 ล้านหุ้น ซึ่งต่ำกว่าแผนเดิมที่ MAKRO ระบุจำนวนหุ้น PO ราว 2,270 ล้านหุ้นหรือ 2,610 ล้านหุ้น กรณีรวมส่วน over-allotment เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดก็อาจมีผลลบในเชิง sentiment ต่อราคาหุ้นทั้ง CPALL, CPA และ MAKRO ได้

 

แต่การลดจำนวนหุ้นดังกล่าว มองว่าไม่กระทบพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ เพราะชดเชยด้วย Dilution effect ที่ลดลงเช่นกัน อีกทั้งเชื่อว่าช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มนี้ก็ปรับตัวลงสะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปบ้างแล้ว ในขณะที่โมเมนตั้มกำไรที่กำลังอยู่ในภาวะฟื้นตัว และปี2565 จะมีอานิสงส์เชิงบวกจากการปรับโครงสร้างกิจการโลตัสส์เต็มปี

 

นักลงทุนรายย่อย /ผู้ถือหุ้นเดิม จองซื้อได้เท่าไร

 

นักลงทุนรายย่อยทั่วไป

 

หุ้น MAKRO จัดสรรขายให้นักลงทุนรายย่อยทั่วไป ที่ราคาหุ้นละ 43.50 บาท
จองซื้อขั้นต่ำ 500 หุ้น และเพิ่มทีละ 100 หุ้น จัดสรรด้วยวิธี Small Lot First หรือผู้จองซื้อที่จำนวนขั้นต่ำได้รับการจัดสรรก่อน
จัดสรรวิธี Small Lot First โดย Settrade แต่ละรายรอบแรกได้ 500 หุ้นก่อน หากมีหุ้นเหลือจัดสรรรอบถัดไปรอบละ 100 หุ้น จนกว่าหุ้นจะหมด
กรณีมีผู้จองซื้อจำนวนมาก ทำให้จัดสรรรอบแรกไม่ได้ครบทุกรายที่รายละ 500 หุ้น ระบบจะ “สุ่ม” จัดสรรให้ผู้จองซื้อรายละ 500 หุ้น จนครบจำนวนหุ้นที่เสนอขาย
ผู้ไม่ได้รับการจัดสรรหุ้น และจองเกิน จะคืนเงินภายใน 7-10 วัน หลังจากวันจองซื้อหุ้นวันสุดท้าย

ผู้ถือหุ้นเดิม

 

ผู้ถือหุ้นเดิมของ MAKRO ในอัตราส่วน 10 หุ้นสามัญของ MAKRO ต่อ 1 หุ้นสามัญของ MAKRO ที่เสนอขาย (สัดส่วน 10:1)
ผู้ถือหุ้นเดิมของ CPALL ในอัตราส่วน 15 หุ้นสามัญของ CPALL ต่อ 1 หุ้นสามัญของ MAKRO ที่เสนอขาย (สัดส่วน15:1)
ผู้ถือหุ้นเดิมของ CPF ในอัตราส่วน 70 หุ้นสามัญของ CPF ต่อ 1 หุ้นสามัญของ MAKRO ที่เสนอขาย (สัดส่วน 70:1)
ผู้ถือหุ้นเดิมของ MAKRO, CPALL และ CPF ที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญสามารถตรวจสอบสิทธิที่ได้รับจัดสรรได้ทาง เว็บไซต์ settrade ทั้งนี้สามารถจองซื้อเกินกว่าสิทธิ ตามสิทธิ หรือน้อยกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรรก็ได้
ระบบ Settrade จัดสรรให้ตามสิทธิการถือหุ้นเดิมของทั้ง 3 บริษัทในรอบแรก กรณีจัดสรรตามสิทธิแล้วมีหุ้น ระบบจัดสรรต่อให้ผู้จองเกินสิทธิ
คืนเงินค่าจองซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้จัดสรรไม่ครบ 7-10 วันทำการหลังวันจองซื้อสุดท้าย

ช่องทางการจองซื้อ

 

– ผู้จองซื้อรายย่อย สามารถซื้อหุ้นเพิ่มทุน MAKRO ผ่าน

 

แอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking
แอปพลิเคชัน SCB Easy App
แอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet โดยบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที

– สำหรับผู้ถือหุ้นเดิม MAKRO ,CPALL และ CPF สามารถจองซื้อกับตัวแทนรับจองซื้อหุ้น 2 ราย ผ่าน

 

แอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking
แอปพลิเคชัน SCB Easy App
สาขาธนาคารกรุงเทพและธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ

อ้างอิง
https://www.thansettakij.com/category/money_market

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Previous post ไม่ได้ประชด!เป๊ปชมแมนซิตี้เล่นดีแม้แพ้ไลป์ซิก
Next post หุ้นไทยปิดเช้าบวก 4.40 จุด วอลุ่ม 3.9 หมื่นล้าน คลายกังวลโควิดโอไมครอน-เงินเฟ้อมะกัน จับตาประชุมเฟด